ผ่านการพิจารณาแล้ว! งบแก้ปัญหาน้ำเสียเกาะพีพี หลังปล่อยเรื้อรังมานาน

โครงการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียผ่านการพิจารณา แต่ยังอยู่ระหว่างการขออนุมัติงบประมาณใช้งบกว่า 500 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี เชื่อสร้างเสร็จทำปัญหาเบาบาง

ปัญหาน้ำเสียของเกาะพีพี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 และ 8 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ด้วยจำนวนอาคารที่พักเพิ่มขึ้น ประชากรเพิ่มขึ้น ทำให้ อบต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ไม่สามารถบริหารจัดการน้ำเสียที่เพิ่มขึ้นทุกวันได้ เนื่องจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด

ล่าสุด นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระองค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจองค์การมหาชนและกองทุนสภาผู้แทนราษฎร นำคณะลงพื้นที่เกาะพีพี เพื่อประชุมหารือและรับฟังความคิดเห็นปัญหาความต้องการ ร่วมกับนายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ นายประเสริฐ วงศ์นา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับโครงการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียในชุมชนอย่างยั่งยืนขององค์การจัดการน้ำเสียองค์กรมหาชน ที่ได้จัดสรรงบประมาณ 540 ล้านบาท เป็นโครงการก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียระบบท่อรวมน้ำเสียเกาะพีพี โดยก่อสร้างในพื้นที่ที่บำบัดน้ำเสียเดิมในเนื้อที่ 4 ไร่เศษ

โดยโครงการดังกล่าวมีอาคารศูนย์บริการจัดการคุณภาพน้ำ สามารถรองรับน้ำเสียชุมชน ได้แก่ บ้านเรือนของราษฎร ร้านค้าร้านอาหาร โรงแรม บังกะโล เกสต์เฮาส์ รีสอร์ตได้ประมาณ 2,000 ลูกบาศก์ลิตรต่อวัน สร้างจุดรวบรวมน้ำเสียในพื้นที่ 250-300 ไร่รวม 14 จุด ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเกาะพีพี โดยระบบบำบัดน้ำเสียอยู่ใต้ผิวดินด้านบนเป็นตัวสำนักงาน สวนสาธารณะ พื้นที่ออกกำลังกาย สามารถบำบัดน้ำเสียได้ตามมาตรฐานคุณภาพน้ำทิ้งก่อนปล่อยสู่แหล่งรองรับน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วได้คุณภาพตามมาตรฐานกลับมาใช้ประโยชน์

นายจิรายุ กล่าวว่า หลังจากก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเกาะพีพี แล้วเสร็จก็จะเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำเสียและอาจจะเป็นแห่งแรกของประเทศไทยเพื่อจะนำไปใช้ในเกาะแก่งต่างๆ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนงบประมาณได้มีการพิจารณาไปแล้วกว่า 500 ล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างอนุมัติ คาดว่าจะดำเนินการได้ในปีงบประมาณนี้ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี จากนั้นระบบบำบัดน้ำเสียบนเกาะพีพีโดยเฉพาะจุดที่มีประชาชนหนาแน่นมีโรงแรมและนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้รับการบำบัด

ซึ่งหลังจากนั้นจะกลับมาประเมินอีกครั้งหนึ่งว่าทำไปแล้วสามารถใช้รูปแบบนี้เป็นโมเดลไปจังหวัดอื่นได้อีกหรือไม่ เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นความมั่นอกมั่นใจของชาวจังหวัดกระบี่และชาวเกาะพีพีและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว มาเที่ยวกระบี่แล้วจะได้เห็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า โดยหลักการที่มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วซึ่งระหว่างนี้อยู่ที่การตั้งคณะกรรมการขององค์การจัดการน้ำเสีย หรือที่เรียกกันว่าบอร์ด โครงการนี้ชาวเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ไม่น่ากังวลใจ สามารถดำเนินการตามกรอบเวลาภายใน 3 ปี เสร็จไม่เกินปีงบประมาณ 66

ด้าน นายประเสริฐ วงศ์นา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง กล่าวว่า ที่ผ่านมาบ่อบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ ที่มีอยู่ รองรับน้ำเสียได้เพียงวันละ 400 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น แต่ปริมาณน้ำเสียบนเกาะพีพี มีประมาณวันละ 1,500-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้มีน้ำเสียบางส่วนถูกปล่อยลงทะเลโดยไม่ผ่านการบำบัดที่ถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา จังหวัดกระบี่ ได้บังคับใช้กฎหมาย ตรวจสอบสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องติดตั้งถังดักไขมัน ระบบบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยลงคูระบายน้ำ 

ขณะที่จำนวนประชากรบนเกาะพีพี มี 1,649 คน 215 ครัวเรือน ประชากรแฝงราว 3,000 คน มีโรงแรม จำนวน 79 แห่ง สถานประกอบการทัวร์ 15 แห่ง ร้านอาหารภัตตาคาร 46 แห่ง สถานประกอบการดำน้ำ 6 แห่ง ร้านนวด 22 แห่ง ธนาคาร 3 แห่ง ตลาดสด 1 แห่ง พลาซ่า 1 แห่ง มินิมาร์ท 12 แห่ง โรงพยาบาล 1 แห่ง เชื่อว่าเมื่อมีการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียแล้วเสร็จ ก็จะทำให้เกาะพีพีเป็นสถานที่น่าสัมผัสอย่างแท้จริง






ที่มา mgronline.com

ความคิดเห็น

Featured story

พยากรณ์อากาศภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2563