เปลี่ยนจากสวนยางหันมาปลูกมัลเบอร์รี่ สร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน
“ลูกหม่อน” หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ “มัลเบอร์รี่” เป็นหนึ่งในไม้ผลทางเลือกสำหรับผู้รักสุขภาพ เพราะมัลเบอร์รี่มีสารพฤกษเคมี ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กลุ่มแทนนิน ฟลาโวนอยด์ เทอร์ปีน แอนโทไซยานิน ซึ่งช่วยให้ภูมิร่างกายแข็งแรง ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อไวรัส ต้านเชื้อรา ต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง ป้องกันความเสื่อมของร่างกาย มีใยอาหาร (ไฟเบอร์) ที่ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น มีวิตามินสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีรวม และมีแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี ซีลีเนียม ช่วยผลาญพลังงานและช่วยระบบฮอร์โมนในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการเกิดสิวและอาการปวดประจำเดือน
นายประสิทธิ์ หรือน้อย ไทยถัด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 499 ม.5 ต.เขาพนม อ.เขาพนมจ.กระบี่ เจ้าของสวนหม่อนวังน้ำเย็น เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่เล็งเห็นคุณค่าและคุณประโยชน์ของไม้ผลชนิดนี้ โดยนายประสิทธิ์ หรือน้อย กล่าวว่า สวนมัลเบอร์รี่ของตนแห่งนี้ เดิมเป็นสวนยางพารา และหลังจากที่ล้มยางพาราแล้ว มองว่าน่าจะปลูกพืชอย่างอื่นหรือทำเกษตรแบบผสมผสาน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้ให้ได้มากที่สุด เพราะราคายางพาราก็ตกต่ำ มองดูรอบๆ พื้นที่แล้วน่าจะเหมาะกับการปลูกมัลเบอร์รี่ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อของ “ลูกหม่อน” เพราะมีแหล่งน้ำ เหมาะแก่การทำเกษตร
นายประสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะลงมือปลูกมัลเบอร์รี่ จากการศึกษาพบว่านอกเหนือจากพื้นที่ที่เหมาะสมแล้ว มัลเบอร์รี่ยังเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และวิตามินสูง ปลูกง่าย โตเร็ว อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้หลากหลาย ทั้งขายผลสด แปรรูปเป็นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ แยม อบแห้ง กวน จึงได้ลงมือปลูกมัลเบอร์รี่ ปลูกบนเนื้อที่ 5 ไร่ โดยแรกเริ่มสั่งมัลเบอร์รี่พันธุ์เชียงใหม่ 60 มาปลูก จำนวน 400 ต้น และหลังจากนั้นก็ได้ขยายปลูกจนเต็มพื้นที่ในปัจจุบัน
สำหรับมัลเบอร์รี่ ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่ต้องใช้สารเคมี ตอนแรกจะปลูกเพื่อต้องการเปลี่ยนพันธุ์พืชที่ให้รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่ายางพารา และมองว่ามัลเบอร์รี่กำลังเป็นที่ต้องการของคนรักสุขภาพ และเห็นว่ามัลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูง ปลูกง่าย ไม่ต้องฉีดยา แต่ทำไปทำมาผลผลิตเริ่มออกเยอะ และได้ผลดี เป็นที่ต้องการของตลาดคนรักสุขภาพ
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากเก็บผลสดของมัลเบอร์รี่ขายแล้ว ยังได้นำมาแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นอบซอส มัลเบอร์รี่ น้ำสกัดมัลเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่อบแห้ง ใบชามัลเบอร์รี่ แยมมัลเบอร์รี่ และอีกหลายชนิด นอกจากนี้ ต้นพันธุ์ก็ยังขายได้ ซึ่งจะเห็นได้ในสวนมัลเบอร์รี่ของตนปลูกระยะห่างต้นค่อนข้างชิดกัน เพื่อขุดต้นพันธุ์ขายยอมรับว่ารายได้ค่อนข้างดีมาก เมื่อเทียบกับรายได้จากยางพาราที่ผ่านมา
โดยตอนนี้รายได้จากการจำหน่ายผลมัลเบอร์รี่ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากมัลเบอร์รี่ มีรายได้รวมกัน 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน ยังไม่หักค่าใช้จ่าย ค่าจ้างตัดหญ้า ค่าเก็บผลมัลเบอร์รี่และอื่นๆ แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ยังมีรายได้มากกว่ายางพารา และยังสามารถสร้างงานให้แก่คนอื่นด้วย
สำหรับการปลูกมัลเบอร์รี่ ใช้เวลาประมาณ 8-9 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ส่วนช่องทางการจำหน่าย ตอนนี้สะดวกขึ้นมาก นอกจากนำไปขายตามงานแสดงสินค้า และตามสถานที่ต่างๆ แล้ว ทางสำนักงานเกษตร จ.กระบี่ ได้ส่งเสริมแนะนำและสอนวิธีการจำหน่ายผ่านออนไลน์ จนทำให้สินค้าขายแทบไม่ทัน และนอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาส่งเสริมทั้งการสร้างแบรนด์ และบรรจุภัณฑ์ จนได้รับเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป 4 ดาว ภายใต้ชื่อ "ฟินเบอรี่" หากสนใจโทร.สอบถามข้อมูลได้ที่หมายโทรศัพท์ 06-5034-2711 ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ
ที่มา : mgronline.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น