นายกฯ ทน.ยะลา เผย อปท.ทั่วประเทศใกล้ “ถังแตก” หลังมีปัญหาจัดเก็บรายได้จากนโยบายรัฐ
นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา เผยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ใกล้ “ถังแตก” หลังมีปัญหาจัดเก็บรายได้จากนโยบายของรัฐ แนะรัฐบาลเร่งแก้ไขก่อนจะ “ล้มละลาย”
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่สำนักงานเทศบาลนครยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยกตัวอย่าง อบต.กับเทศบาล จะมีที่มาของรายได้ 3 ทาง คือ ภาษีโรงเรือน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นกฎหมายที่ดินและสิ่งก่อสร้าง อันที่ 2 คือภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บแล้วแบ่งให้ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต อันที่ 3 คือส่วนที่เป็นเงินอุดหนุน ซึ่งตอนนี้ทั้ง 3 ส่วนเกิดปัญหาทั้งหมด คือภาษีโรงเรือน ซึ่งที่ผ่านมาเทศบาลจัดเก็บเอง รัฐบาลก็ไปสั่งยกเลิกกฎหมายเก่า แล้วไปออก พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งก่อสร้างใหม่ โดยใช้เหตุผลว่าจะทำให้มีรายได้กับทางเทศบาล และ อบต.มากขึ้น
แต่ในการปฏิบัติได้รับเสียงคัดค้านจากประชาชนเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงได้สั่งชะลอ จึงทำให้เทศบาล และ อบต.ไม่สามารถเก็บรายได้มาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 2 ปี และเพิ่งจะมีคำสั่งให้จัดเก็บได้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และรัฐบาลก็ได้สั่งให้ลดภาษีเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เนื่องจากอยู่ในช่วงโควิด-19 โดยให้ลดภาษี 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ที่เข้าท้องถิ่น รายได้ที่ท้องถิ่นเก็บเองก็แทบจะหายไป ในส่วนที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งมาให้คือภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
แต่ในเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลโอนมาให้ลดไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์จากเดิมที่เคยได้ ซึ่งเทศบาล และ อบต.ทั่วประเทศก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน ภาษีสรรพสามิตก็หายไปจากกรณีการระบาดโควิด-19 และในส่วนของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลให้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินที่ท้องถิ่นไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ เพราะเป็นเงินที่จะต้องใช้จ่ายตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
“ปีงบประมาณ 2564 จะมีปัญหามาก เพราะเงินจะหายไปเยอะมาก ยกตัวอย่างเทศบาลนครยะลา มีนักเรียนที่จะต้องดูแลค่าอาหารกลางวัน เงินในส่วนนี้ถูกตัดหายไปกว่า 1 พันคน รวมทั้งในเรื่องของนมโรงเรียนที่เป็นเรื่องสำคัญมาก วันนี้นมโรงเรียนที่ได้รับงบประมาณจากสำนักงบประมาณให้เทศบาลนครยะลา ขาดไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ และยังจะมีเงินผู้สูงอายุ ที่ก็ไม่เพียงพอ เงินอุดหนุนเหล่านี้เฉพาะเทศบาลนครยะลา หายไปเกือบ 70 ล้านบาท ซึ่งทางรัฐหวังว่าจะให้เทศบาลนครยะลา นำเงินสะสมของเทศบาลไปจ่าย จึงขอเรียนให้ทราบว่า เงินสะสมที่ทางเทศบาลเก็บเอาไว้ ได้มาจากเงินที่เหลือจากการประกวดราคาต่างๆ นำมาสะสมเอาไว้ เพื่อใช้ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน และเมื่อสะสมได้เงินก้อนโตขึ้นมาก็จะสามารถนำไปทำโครงการขนาดใหญ่ที่สามารถพลิกเมืองได้ ซึ่งตนมองว่าการที่จะให้นำเงินสะสมของเทศบาลออกมาใช้ เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม ทุกวันนี้รัฐบาลพยายามผลักภาระให้แก่ท้องถิ่น ซึ่งรัฐควรที่จะสนับสนุนจัดสรรงบให้ได้ตามนโยบายของรัฐเอง ทางเทศบาลมี 2 ทางให้เลือกคือ ถ้าไปช่วยดูแลเด็กก็จะไม่มีเงินเดือนไปจ่ายพนักงาน ถ้าเราจ่ายเงินเดือนพนักงานก็จะไม่สามารถดูแลเด็กได้ ก็จะเกิดปัญหา กรณีแบบนี้ท้องถิ่นทั่วประเทศกำลังได้รับผลกระทบเหมือนกัน และในหลายเทศบาลที่ไม่มีเงินสำรอง ก็อาจจะต้องมีการปลดพนักงาน หรือชะลอการรับโอนข้าราชการ” นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ไขในเรื่องนี้ ตนเองมองว่ารัฐบาลจะต้องปลดล็อกกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในเรื่องการใช้จ่ายเงินสะสม เพราะวันนี้ถึงแม้จะมีเงิน แต่ก็นำไปใช้ไม่ได้ เพราะถูกกันเอาไว้จะต้องคลายล็อกก่อน รวมทั้งขณะนี้รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.เงินกู้ เงินส่วนนี้ส่วนหนึ่งควรจะนำมาอุดหนุนท้องถิ่นเฉพาะในส่วนที่เป็นนโยบายของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นอาการกลางวันเด็ก นมโรงเรียน เงินผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพคนพิการ ที่รัฐควรจะดูแลก่อน และในส่วนที่ 3 ตนมองว่ารัฐบาลควรจะมีการปฏิรูประบบราชการทั้งหมด วันนี้มีความซ้ำซ้อนของระบบค่อนข้างมาก ตนเองเชื่อว่าในปีนี้จะมีหลายๆ เทศบาล หรือ อบต.จะไม่มีเงินจ่ายพนักงาน ที่จะเป็นปัญหา ซึ่งในส่วนของเทศบาลนครยะลา ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาก็ได้มีการสั่งลดรายจ่ายประจำลงมา แต่ก็ยังกระทบพอสมควร
ที่มา : mgronline.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น